อิวะซะกิ ยะตะโร (ญี่ปุ่น: ?? ??? ???? ???? ?)(Iwasaki Yatar?) เป็นนักการเงินและนักปฏิวัติอุตสาหกรรมส่งออกชาวญี่ปุ่น ผู้ก่อตั้งบริษัทมิตซูบิชิ
อิวะซะกิ ยะตะโร เกิดในครอบครัวชาวนาในเมืองอาคิ แคว้นโทสะ(ปัจจุบันคือ "จังหวัดโคชิ" 1ใน4จังหวัดบนเกาะชิโกกุ) ซึ่งปู่ทวดของเขาได้ขายสถานะซามูไรของตระกูลไปเพื่อใช้หนี้ อิวะซะกิออกเดินทางไปยังเอโดะ(ปัจจุบันคือ "โตเกียว") เพื่อไปศึกษาตอนอายุ19ปี ซึ่งต่อมามีเหตุให้ยุติการศึกษาของเขาลงเนื่องจากพ่อของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสในกรณีพิพาทกับหัวหน้าหมู่บ้าน. เมื่อผู้พิพากษาปฏิเสธที่จะฟังคดีของเขา ทำให้อิวะซะกิต้องถูกตัดสินจำคุกในข้อหาทุจริตและถูกส่งเข้าคุกเป็นเวลา 7เดือน ภายหลังจากที่อิวะซะกิได้รับการปล่อยตัวทำให้เขาไม่มีงานทำซึ่งในเวลาถัดมาเขาได้เริ่มอาชีพเป็นครูสอนเด็กในหมู่บ้าน และได้แต่งงานกับอิวะซะกิ คิเสะ(ซึ่งก็คือแม่ของอิวะซะกิ ฮิสะยะนั่นเอง) ภายหลัง อิวะซะกิ ก็เปลี่ยนอาชีพของเขาด้วยการทำงานเป็นเสมียนให้ตระกูลโทสะ โดยชักชวนของ โยะชิดะ โทโย ซึ่งตระกูลโทสะมีผลประโยชน์ทางธุรกิจในหลายส่วนของประเทศญี่ปุ่น ต่อมาในปี ค.ศ. 1862 โยะชิดะ โทโย ได้ถูกลอบสังหารทำให้เขาขาดการติดต่อกับตระกูลโทะซะอีกครั้ง กระทั่งหลานของ โยะชิดะ โทโย นามว่า โกโต โชจิโร่ ได้รับ อิวะซะกิ กลับเข้าทำงานอีกครั้ง อิวะซะกิสามารถทำงานจนซื้อสถานะซามูไรของตระกูลกลับได้ และเขาได้รับความไว้วางใจจนได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้ากลุ่มการค้าของของตระกูลโทสะ มีหน้าที่ความรับผิดชอบคือทำการค้าขายในนางาซากิเพื่อขายน้ำมัน การบูร และกระดาษ และซื้อเรือ อาวุธ และกระสุนกลับแคว้นโทสะ และได้รับหน้าที่ดูแลการเงินของกลุ่มการค้าไคเอ็นไตของซะกะโมะโตะ เรียวมะ เป็นคนที่จัดหาเรือ อิโระฮะมารุ ให้กับกลุ่มไคเอ็นไตได้ใช้ดำเนินกิจการ
หลังจากช่วงการฟื้นฟูสมัยเมจิ ในปี ค.ศ. 1868 มีการบังคับให้ยกเลิกการหาผลประโยชน์ของกลุ่มการค้าในระบอบโชกุน อิวะซะกิจึงเดินทางไปโอซาก้าและเป็นผู้นำการค้าให้กับบริษัทการค้าตระกูลโทะซะ ภายหลังบริษัทนี้ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น มิตซูบิชิ
อิวะซะกิ ยะตะโระ ได้ก่อตั้งบริษัทเป็นของตนเองเมื่อเดือน มีนาคม ค.ศ. 1870 พร้อมกับตั้งชื่อบริษัทว่า มิตซูบิชิ โดยตราของบริษัทเป็นการนำตราประจำตระกูลอิวะซะกิของตัวเองมารวมกับตราประจำตระกูลยะมะอุจิซึ่งเป็นเจ้าครองแคว้นโทสะในสมัยนั้น
ในปี ค.ศ. 1874 - ค.ศ. 1875 ยะตะโระได้รับว่าจ้างจากจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้ดำเนินธุรกิจการขนส่งกองทัพทหารญี่ปุ่นและยุทโธปกรณ์ และรัฐบาลญี่ปุ่นได้ซื้อเรือรบจำนวนนึงเพื่อดำเนินภารกิจต่อต้านชาวพื้นเมือง Paiwan ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน ซึ่งเรือเหล่านี้จะได้รับภายหลังจากที่มิตซูบิชิดำเนินการปฏิบัติภารกิจเสร็จสิ้นในปีี ค.ศ. 1875. เรื่องความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างมิตซูบิชิกับรัฐบาลใหม่เป็นสิ่งยืนยันได้ถึงความสำเร็จของบริษัทที่ก่อตั้งใหม่ได้อย่างดี ในทางกลับกัน บริษัทมิตซูบิชิก็ได้ให้การสนับสนุนรัฐบาลใหม่ในการลำเลียงกองกำลังเพื่อทำการต่อต้านกบฏซะสึมะได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1877 ดังนั้นความสำเร็จของมิตซูบิชิจึงกลายมาเป็นจุดเกี่ยวพันที่สำคัญกับการขยายอำนาจของรัฐญี่ปุ่นยุคใหม่
ต่อมาภายหลังมิตซูบิชิได้ลงทุนในเหมืองแร่, อู่ซ่อมเรือ และการเงิน ในปี ค.ศ. 1884 เขาได้เข้าดำเนินธุรกิจอู่ต่อเรือนางาซากิ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถที่จะดำเนินการต่อเรือขนาดใหญ่ได้ และได้เปลี่ยนชื่อเป็น Nagasaki Shipyard & Machinery Works.
อิวะซะกิ ยะตะโร ประธานคนแรกของบริษัทมิตซูบิชิถึงแก่กรรมด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1885 โดยผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากเขาคืออิวะซะกิ โยะโนะสุเกะน้องชาย และถัดมาเป็นลูกชายของเขา อิวะซะกิ ฮิสะยะ